เรียกได้ว่านโยบายคืนภาษีรถคันแรก เป็นนโยบายทีได้รับความนิยมมากนโยบายหนึ่งเลยนะครับเพราะมีคนจำนวนมากสนใจใช้สิทธิ์ตามนโยบายนี้และก็มีการประกาศเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขออกมาเป็นระยะ จนมีหลายๆ คนสับสน ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอหยิบเอาเงื่อนไขของการใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรกมาบอกเล่าให้เข้าใจกันนะครับ
ตรวจสอบรุ่นรถทั้งหมด ที่สามารถขอคืนเงินรถยนต์คันแรก ได้ที่นี่
- รถยนต์นั่ง คลิกที่นี่
- รถยนต์นั่งที่มีกระบะ(Double Cab) คลิกที่นี่
- รถยนต์กระบะ(Pick Up) คลิกที่นี่
- รถยนต์นั่ง คลิกที่นี่
- รถยนต์นั่งที่มีกระบะ(Double Cab) คลิกที่นี่
- รถยนต์กระบะ(Pick Up) คลิกที่นี่
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก
- แบบฟอร์ม คำขอคืนเงินและเงื่อนไขสาหรับรถยนต์คันแรก
- แบบฟอร์ม หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์คันแรกภายใน 5 ปี
- ตัวอย่าง แบบฟอร์ม หนังสือแจ้งผลการได้รับสิทธิจากกรมสรรพสามิต
เงื่อนไขการใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรกมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด9 ข้อ ดังนี้ครับ- แบบฟอร์ม คำขอคืนเงินและเงื่อนไขสาหรับรถยนต์คันแรก
- แบบฟอร์ม หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์คันแรกภายใน 5 ปี
- ตัวอย่าง แบบฟอร์ม หนังสือแจ้งผลการได้รับสิทธิจากกรมสรรพสามิต
- ผู้ซื้อต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี
- ผู้ซื้อต้องไม่เคยครอบครองรถยนต์มาก่อน
- รถที่ซื้อต้องเป็นรถใหม่ โดยต้องซื้อในช่วงวันที่ 16 กันยายน 2554 ถึง 31 ธันวาคม 2555
- รถที่ซื้อต้องมีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท
- รถที่ซื้อ ต้องเป็นรถเก๋งที่มีขนาดเครื่องไม่เกิน 1500 ซีซี หรือรถกระบะ เท่านั้น
- ต้องเป็นรถที่ผลิตในประเทศไทยเท่านั้น รถประกอบนอก (รถจดประกอบ) ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้
- ผู้ซื้อรถต้องครองรถไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยห้ามขาย/โอนให้ผู้อื่น
- ผู้ซื้อที่ตรงตามเงื่อไขข้างต้น จะได้รับภาษีรถยนต์คืนตามจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
- การจ่ายคืนภาษี จะจ่ายให้เมื่อถือครองรถครบ 1 ปีแล้ว โดยจะโอนเงินเข้าบัญชี เริ่มจ่ายคืนตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป ซึ่งในส่วนของค่าธรรมเนียมการโอนของแต่ละธนาคารจะต่างกันนะครับ
เมื่อเรารู้แล้วว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้างต่อมาเรามาดูกันครับว่าเราต้องเตรียมเอกสารอะไรไปยื่นเพื่อขอใช้สิทธิ์บ้างครับ
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)
- สำเนาคู่มือจดทะเบียน
- หนังสือยินยิมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์ใหม่คันแรก
- สำเนาเอกสารการซื้อขายรถ
- กรณีซื้อเงินสด ใช้สำเนาใบเสร็จรับเงิน หรือสำเนาสัญญาซื้อขาย และสำเนาเอกสารการรับมอบรถยนต์
- กรณีเช่าซื้อ ใช้สำเนาเสร็จใบเสร็จรับเงินและสำเนาเอกสารรับมอบรถยนต์
- สำเนาบัญชีเงินฝากของผู้ยื่นใช้สิทธิ์
หลังจากที่เราเตรียมเอกสารพร้อมแล้วเราสามารถยื่นได้ 2 ช่องทางครับ ได้แก่
- ยื่นผ่านสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขา ตามสำเนาทะเบียนบ้าน หรือสถานที่จดทะเบียนรถ โดยต้องยื่นเอกสารให้ครบภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555
- ยื่นผ่านเวปไซต์กรมสรรพสามิต www.excise.go.th โดยต้องส่งคำขอพร้อมสำเนาเอกสารทุกฉบับ ไปที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ระบุไว้ในแบบคำขอใช้สิทธิ์ทางไปรษณีย์ หรือนำส่งด้วยตัวเองครับ
ในกรณีที่เรามีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของเอกสารต่างๆไม่ว่าจะเป็นชื่อ นามสกุล บริษัทไฟแนนซ์ บัญชีธนาคาร หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยื่นใช้สิทธิ์ต้องแจ้งให้กรมสรรพสามิตทราบภายใน 15 วัน
ในกรณีที่จะขอยกเลิกการใช้สิทธิ์ก่อนได้รับเงินคืนต้องขอแจ้งยกเลิกที่สำนักงานกรมสรรพสามิตที่ยื่นเรื่องไว้หากจะขอยกเลิกการใช้สิทธิ์หลังจากที่ได้รับเงินคืนแล้วให้นำเงินส่งคืนสำนักงานกรมสรรพสามิตที่เราเคยยื่นเรื่องขอใช้สิทธิ์ไว้ครับ
ในกรณีที่ได้รับสิทธิ์แล้วแต่ทำผิดเงื่อนไข ต้องนำเงินส่งคืนสำนักงานกรมสรรพากรภายใน 15วันหลังจากที่ได้รับหนังสือแจ้งเตือนครับ
และนี่ก็เป็นเงื่อนไขและรายละเอียดทั้งหมดของการใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรกที่นำมาฝากกันวันนี้ครับหากใครไม่มั่นใจในประเภทและรายละเอียดของรถยนต์ที่จะซื้อว่าจะตรงกับเงื่อนไขหรือไม่สามารถเข้าไปเช็คได้ที่ www.excise.go.th ครับ และหลังจากที่เรายื่นเรื่องไปแล้วเราก็สามารถติดตามผลได้ที่เวปไซต์เดียวกันครับ หรือจะไปสอบถามที่สำนักงานกรมสรรพสามิตที่ยื่นเรื่องไว้เลยก็ได้ครับ อ่านข้อมูลข่าวสารวงการรถยนต์เพิ่มเติมที่ www.thailandcarnews.blogspot.com
ในกรณีที่จะขอยกเลิกการใช้สิทธิ์ก่อนได้รับเงินคืนต้องขอแจ้งยกเลิกที่สำนักงานกรมสรรพสามิตที่ยื่นเรื่องไว้หากจะขอยกเลิกการใช้สิทธิ์หลังจากที่ได้รับเงินคืนแล้วให้นำเงินส่งคืนสำนักงานกรมสรรพสามิตที่เราเคยยื่นเรื่องขอใช้สิทธิ์ไว้ครับ
ในกรณีที่ได้รับสิทธิ์แล้วแต่ทำผิดเงื่อนไข ต้องนำเงินส่งคืนสำนักงานกรมสรรพากรภายใน 15วันหลังจากที่ได้รับหนังสือแจ้งเตือนครับ
และนี่ก็เป็นเงื่อนไขและรายละเอียดทั้งหมดของการใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรกที่นำมาฝากกันวันนี้ครับหากใครไม่มั่นใจในประเภทและรายละเอียดของรถยนต์ที่จะซื้อว่าจะตรงกับเงื่อนไขหรือไม่สามารถเข้าไปเช็คได้ที่ www.excise.go.th ครับ และหลังจากที่เรายื่นเรื่องไปแล้วเราก็สามารถติดตามผลได้ที่เวปไซต์เดียวกันครับ หรือจะไปสอบถามที่สำนักงานกรมสรรพสามิตที่ยื่นเรื่องไว้เลยก็ได้ครับ อ่านข้อมูลข่าวสารวงการรถยนต์เพิ่มเติมที่ www.thailandcarnews.blogspot.com
Credit : by Bloggang.com ////