การเปิดตัวครั้งแรกในโลกอย่างเป็นทางการของ Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 9 เวอร์ชั่นอเมริกาในหลายๆรุ่นในงาน 2011 New York Auto Show ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าไม่ได้รับความสนใจมากเท่าที่ควร ทั้งนี้เนื่องจากมีการเผยโฉมพร้อมรายละเอียดของคอมแพคท์คาร์รุ่นนี้ออกมาล่วงหน้าเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ในขณะที่คนไทยอยากจะเห็นโฉมของจีนมากกว่าเพราะนั่นคือ โฉมที่ว่ากันว่าจะมีการใช้กับ Civic ของไทยด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามยังมี Honda Civic รุ่นปี 2012 ที่น่าสนใจรุ่นหนึ่ง นั่นก็คือ Civic Hybrid ที่นอกจากจะเป็นรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอินเทรนด์แล้ว ยังมีการทดสอบการประหยัดน้ำมันที่น่าสนใจจาก HybridCars.com ที่ทำให้เราคิดว่า รถรุ่นนี้น่าสนใจมากกว่าที่คิด เพราะประหยัดน้ำมันมากกว่าที่ระบุในเอกสารทางเทคนิคของ Honda เอง
Honda Civic Hybrid รุ่นปี 2012 นี้ได้ใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนเป็นครั้งแรกที่ช่วยให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง EPA ตามมาตรฐานของอเมริกาเพิ่มจาก 41 ไปเป็น 44 ไมล์/แกลลอนโดยเฉลี่ยสำหรับการขับนอกและในเมือง โดย HybridCars.com ได้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า Hypermiling ในการขับทดสอบจนได้อัตราสิ้นเปลืองฯเฉลี่ยเกินความคาดหมายที่ 68.7 ไมล์/แกลลอนหรือ 3.42 ลิตร/100 กิโลเมตร ด้วยการขับรถเป็นระยะทาง 10 ไมล์หรือ 16 กิโลเมตรในสภาพถนนทั่วไปของอเมริกา ที่มีทั้งการขับทั้งในและนอกเมือง โดยมีการหยุดรถที่แยกไฟแดง 4-5 ครั้ง เพื่อให้ได้สภาพการขับขี่ที่สะท้อนความเป็นจริงมากที่สุด
จากตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองฯอย่างเป็นทางการที่ 44 ไมล์/แกลลอน ก็เพียงพอที่ทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถระบบไฮบริดแบบ “ไม่ Plug-In” ที่ประหยัดน้ำมันเป็นอันดับ 2 รองจาก Toyota Prius ซึ่งมีอัตราสิ้นเปลืองฯที่ 50 ไมล์/แกลลอน ในขณะที่ Lexus CT200h ตามมาเป็นที่ 3 ด้วยตัวเลขที่ 42 ไมล์/แกลลอน Honda จึงอ้างได้เต็มปากเต็มคำว่า Civic Hybrid ตัวใหม่นี้เป็นซีดานที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมีราคาขายเริ่มต้นในเมืองลุงแซมที่ 24,050 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนรุ่นท็อปที่มาพร้อมเบาะหุ้มหนังและระบบวิทยุ XM มีราคาอยู่ที่ 26,750 เหรียญสหรัฐฯ
Yuuji Fujiki, Chief Engineer ระบบ IMA Hybrid ของ Honda ให้สัมภาษณ์ HybridCars.com ว่า นอกจากการหันมาใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนแล้ว Civic Hybrid 2012 ยังใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ที่มีขนาดความจุกระบอกสูบที่ใหญ่ขึ้นคือ จากขนาด 1.3 ไปเป็น 1.5 ลิตร แต่กลับมีอัตราสิ้นเปลืองฯเท่ากับโฉมปัจจุบัน(ที่กำลังจะกลายเป็นโฉมเก่า) นั่นทำให้เครื่องยนต์ทำงานที่ความเร็วรอบต่ำ ส่งผลให้มีการใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าบ่อยขึ้น เสียงดังจากเครื่องยนต์ก็น้อยลงโดยปริยาย ส่วนชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนที่ใช้ก็มีขนาดเล็กลงถึง 30% เมื่อเทียบกับชุดแบตเตอรี่นิเกิลเมทัลไฮไดรด์ ทำให้มีพื้นที่จุสัมภาระมากขึ้นกว่า Civic รุ่นก่อน
Fujiki ยังอธิบายเพิ่มอีกว่า ระบบไฮบริดของ Honda ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นในทุกจุดเพื่อให้มั่นใจว่ารถจะสามารถใช้น้ำมันให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือประหยัดน้ำมันมากขึ้นนั่นเอง เหล่านี้ทำได้โดยการเพิ่มกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าจาก 15 ไปเป็น 20 กิโลวัตต์ ด้วยการใช้คอยล์มากขึ้น และมีระยะห่างระหว่างแม่เหล็กในมอเตอร์มากขึ้น นอกจากนั้นยังใช้สเปซเซอร์พลาสติคเพื่อจัดการในเรื่องอุณหภูมิหรือความร้อนภายในมอเตอร์ได้ดีขึ้น
และนอกจากการใช้ระบบ idle-stop มากขึ้นแล้ว ในบางครั้ง วาล์วของเครื่องยนต์จะถูกสั่งให้หยุดการทำงานเพื่อตัดระบบการจ่ายน้ำมันในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน Honda เรียกการทำงานนี้ว่าเป็นโหมดการทำงานแบบ EV ซึ่งการทำงานดังกล่าวไม่ใช่เป็นการทำงานของระบบไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งแม้ว่าระบบจ่ายน้ำมันจะหยุดทำงานแต่รถก็ยังเคลื่อนที่ได้ด้วยแรงฉุดเชิงกลอยู่ได้ ซึ่งสภาวะ “ไม่ใช่น้ำมัน” นี้ จะใช้เวลานานสูงสุดถึง 79 วินาที
Honda อ้างว่า ทีมวิศกรของบริษัทฯได้มุ่งเน้นการพัฒนาในเรื่องของการประหยัดน้ำมันให้มากที่สุด (ซึ่งเห็นได้จากอัตราสิ้นเปลืองฯที่ 44 ไมล์/แกลลอน จากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงตัวเดียวซึ่งมีราคาถูกกว่าและซับซ้อนน้อยกว่าระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวของ Toyota) โดยการสร้างสมดุลย์ในการใช้งานที่เหมาะสมระหว่างแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า และการใช้แบตเตอรี่ ที่ทำให้การใช้น้ำมันโดยรวมเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เทคนิคการขับ Civic Hybrid รุ่นปี 2012 ให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุดก็คือ การค่อยๆเร่งเครื่องในระดับที่สม่ำเสมอไปจนถึงระดับความเร็วที่ประมาณ 45 ไมล์/ชั่วโมงหรือ 72.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง และอยู่ในระดับความเร็วดังกล่าวตลอดระยะทาง 10 ไมล์เท่าที่จะทำได้ นั่นทำให้มีโอกาสที่จะได้อัตราสิ้นเปลืองฯที่ 68.7 ไมล์/แกลลอน นอกจากนั้น Fujiki ยังแนะอีกว่า ไม่ควรใช้เข้าเกียร์ว่างในการชะลอความเร็วเพื่อหยุดรถเพราะการเข้าเกียร์ว่างจะทำให้ระบบจ่ายน้ำมันทำงาน ฉะนั้นคุณจะต้องเข้าเกียร์อื่นไว้เพราะจะทำให้เครื่องยนต์เข้าใจว่าคุณกำลังลดความเร็วอยู่ และจะสั่งการให้มีการตัดการจ่ายน้ำมัน โดยรถจะเริ่มใช้ระบบชาร์จไฟจากการเบรค(Regenerative Braking) เข้ามาแทนที่ ซึ่งการแนะนำนี้ทำให้ทีมงานของ HybridCars.com ชนะการแข่งขันขับรถประหยัดน้ำมันที่จัดขึ้นโดย Honda ซึ่งได้เชิญสื่อมวลชนต่างๆเข้าร่วมพร้อมไปกับการเผยโฉม All-New Civic รุ่นปี 2012 เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาในกรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในด้านรูปลักษณ์ All-New Honda Civic Hybrid จะมีเอกลักษณ์ตรงที่แผงกระจังหน้าพร้อมแถบสีฟ้าด้านบน โคมไฟหน้าและท้ายบางส่วนเป็นสีฟ้าอ่อน ชุดล้ออัลลอยแบบ 5 ก้าน สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลัง และไฟเบรค LED ส่วนภายในเป็นเบาะผ้าแบบพิเศษ โดยมีแผงข้างประตูที่ดูไม่เหมือนใคร
Honda คาดว่าจะสามารถทำยอดขาย All-New Civic รุ่นใหม่นี้ได้ถึง 260,000 คัน/ปี โดย 6% เป็นยอดขายของ Civic Hybrid หรือประมาณ 1,300 คัน/เดือน
Honda Civic Hybrid รุ่นปี 2012 นี้ได้ใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนเป็นครั้งแรกที่ช่วยให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง EPA ตามมาตรฐานของอเมริกาเพิ่มจาก 41 ไปเป็น 44 ไมล์/แกลลอนโดยเฉลี่ยสำหรับการขับนอกและในเมือง โดย HybridCars.com ได้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า Hypermiling ในการขับทดสอบจนได้อัตราสิ้นเปลืองฯเฉลี่ยเกินความคาดหมายที่ 68.7 ไมล์/แกลลอนหรือ 3.42 ลิตร/100 กิโลเมตร ด้วยการขับรถเป็นระยะทาง 10 ไมล์หรือ 16 กิโลเมตรในสภาพถนนทั่วไปของอเมริกา ที่มีทั้งการขับทั้งในและนอกเมือง โดยมีการหยุดรถที่แยกไฟแดง 4-5 ครั้ง เพื่อให้ได้สภาพการขับขี่ที่สะท้อนความเป็นจริงมากที่สุด
จากตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองฯอย่างเป็นทางการที่ 44 ไมล์/แกลลอน ก็เพียงพอที่ทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถระบบไฮบริดแบบ “ไม่ Plug-In” ที่ประหยัดน้ำมันเป็นอันดับ 2 รองจาก Toyota Prius ซึ่งมีอัตราสิ้นเปลืองฯที่ 50 ไมล์/แกลลอน ในขณะที่ Lexus CT200h ตามมาเป็นที่ 3 ด้วยตัวเลขที่ 42 ไมล์/แกลลอน Honda จึงอ้างได้เต็มปากเต็มคำว่า Civic Hybrid ตัวใหม่นี้เป็นซีดานที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมีราคาขายเริ่มต้นในเมืองลุงแซมที่ 24,050 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนรุ่นท็อปที่มาพร้อมเบาะหุ้มหนังและระบบวิทยุ XM มีราคาอยู่ที่ 26,750 เหรียญสหรัฐฯ
Yuuji Fujiki, Chief Engineer ระบบ IMA Hybrid ของ Honda ให้สัมภาษณ์ HybridCars.com ว่า นอกจากการหันมาใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนแล้ว Civic Hybrid 2012 ยังใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ที่มีขนาดความจุกระบอกสูบที่ใหญ่ขึ้นคือ จากขนาด 1.3 ไปเป็น 1.5 ลิตร แต่กลับมีอัตราสิ้นเปลืองฯเท่ากับโฉมปัจจุบัน(ที่กำลังจะกลายเป็นโฉมเก่า) นั่นทำให้เครื่องยนต์ทำงานที่ความเร็วรอบต่ำ ส่งผลให้มีการใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าบ่อยขึ้น เสียงดังจากเครื่องยนต์ก็น้อยลงโดยปริยาย ส่วนชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนที่ใช้ก็มีขนาดเล็กลงถึง 30% เมื่อเทียบกับชุดแบตเตอรี่นิเกิลเมทัลไฮไดรด์ ทำให้มีพื้นที่จุสัมภาระมากขึ้นกว่า Civic รุ่นก่อน
Fujiki ยังอธิบายเพิ่มอีกว่า ระบบไฮบริดของ Honda ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นในทุกจุดเพื่อให้มั่นใจว่ารถจะสามารถใช้น้ำมันให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือประหยัดน้ำมันมากขึ้นนั่นเอง เหล่านี้ทำได้โดยการเพิ่มกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าจาก 15 ไปเป็น 20 กิโลวัตต์ ด้วยการใช้คอยล์มากขึ้น และมีระยะห่างระหว่างแม่เหล็กในมอเตอร์มากขึ้น นอกจากนั้นยังใช้สเปซเซอร์พลาสติคเพื่อจัดการในเรื่องอุณหภูมิหรือความร้อนภายในมอเตอร์ได้ดีขึ้น
และนอกจากการใช้ระบบ idle-stop มากขึ้นแล้ว ในบางครั้ง วาล์วของเครื่องยนต์จะถูกสั่งให้หยุดการทำงานเพื่อตัดระบบการจ่ายน้ำมันในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน Honda เรียกการทำงานนี้ว่าเป็นโหมดการทำงานแบบ EV ซึ่งการทำงานดังกล่าวไม่ใช่เป็นการทำงานของระบบไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งแม้ว่าระบบจ่ายน้ำมันจะหยุดทำงานแต่รถก็ยังเคลื่อนที่ได้ด้วยแรงฉุดเชิงกลอยู่ได้ ซึ่งสภาวะ “ไม่ใช่น้ำมัน” นี้ จะใช้เวลานานสูงสุดถึง 79 วินาที
Honda อ้างว่า ทีมวิศกรของบริษัทฯได้มุ่งเน้นการพัฒนาในเรื่องของการประหยัดน้ำมันให้มากที่สุด (ซึ่งเห็นได้จากอัตราสิ้นเปลืองฯที่ 44 ไมล์/แกลลอน จากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงตัวเดียวซึ่งมีราคาถูกกว่าและซับซ้อนน้อยกว่าระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวของ Toyota) โดยการสร้างสมดุลย์ในการใช้งานที่เหมาะสมระหว่างแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า และการใช้แบตเตอรี่ ที่ทำให้การใช้น้ำมันโดยรวมเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เทคนิคการขับ Civic Hybrid รุ่นปี 2012 ให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุดก็คือ การค่อยๆเร่งเครื่องในระดับที่สม่ำเสมอไปจนถึงระดับความเร็วที่ประมาณ 45 ไมล์/ชั่วโมงหรือ 72.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง และอยู่ในระดับความเร็วดังกล่าวตลอดระยะทาง 10 ไมล์เท่าที่จะทำได้ นั่นทำให้มีโอกาสที่จะได้อัตราสิ้นเปลืองฯที่ 68.7 ไมล์/แกลลอน นอกจากนั้น Fujiki ยังแนะอีกว่า ไม่ควรใช้เข้าเกียร์ว่างในการชะลอความเร็วเพื่อหยุดรถเพราะการเข้าเกียร์ว่างจะทำให้ระบบจ่ายน้ำมันทำงาน ฉะนั้นคุณจะต้องเข้าเกียร์อื่นไว้เพราะจะทำให้เครื่องยนต์เข้าใจว่าคุณกำลังลดความเร็วอยู่ และจะสั่งการให้มีการตัดการจ่ายน้ำมัน โดยรถจะเริ่มใช้ระบบชาร์จไฟจากการเบรค(Regenerative Braking) เข้ามาแทนที่ ซึ่งการแนะนำนี้ทำให้ทีมงานของ HybridCars.com ชนะการแข่งขันขับรถประหยัดน้ำมันที่จัดขึ้นโดย Honda ซึ่งได้เชิญสื่อมวลชนต่างๆเข้าร่วมพร้อมไปกับการเผยโฉม All-New Civic รุ่นปี 2012 เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาในกรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในด้านรูปลักษณ์ All-New Honda Civic Hybrid จะมีเอกลักษณ์ตรงที่แผงกระจังหน้าพร้อมแถบสีฟ้าด้านบน โคมไฟหน้าและท้ายบางส่วนเป็นสีฟ้าอ่อน ชุดล้ออัลลอยแบบ 5 ก้าน สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลัง และไฟเบรค LED ส่วนภายในเป็นเบาะผ้าแบบพิเศษ โดยมีแผงข้างประตูที่ดูไม่เหมือนใคร
Honda คาดว่าจะสามารถทำยอดขาย All-New Civic รุ่นใหม่นี้ได้ถึง 260,000 คัน/ปี โดย 6% เป็นยอดขายของ Civic Hybrid หรือประมาณ 1,300 คัน/เดือน